หนึ่งในกีฬาความหวังของทัพไทยในศึกโอลิมปิกเกมส์ ตั้งแต่ยุคสหัศวรรษใหม่ นั่นคือกีฬายกน้ำหนัก ความสำเร็จแรกด้วยเหรียญทองแดงของ “น้องเกษ” เกษราภรณ์ สุตา ในศึกซิดนี่ย์เกมส์ ปี 2000 ทำให้กีฬายกเหล็กเป็นกีฬาที่”แจ้งเกิด”ในวงการกีฬาบ้านเราเป็นอย่างดี

ต่อเนื่องเรื่อยมาจนนาทีปัจจุบัน “ยกน้ำหนัก” เป็นกีฬาที่สร้างความสำเร็จมาได้อย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นเหรียญทองแดง กลายมาเป็นเหรียญทองในปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ของ “น้องอร” อุดมพร พลศักดิ์ ตำนานคำว่า “สู้โว้ย” และการยกพังสถิติทุกสิ่งอย่างของ “น้องไก่” ปวีณา ทองสุก

จากนั้นในปี 2008 ถึงคิวของ “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ก็คว้าเหรียญทองได้ที่จีน

กระทั่งในโอลิมปิกเกมส์ เมื่อ 4 ปีก่อน ไทยเราได้เหรียญเงินจากกีฬายกเหล็กด้วยฝีมือของ “น้องแต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว ทัพยกเหล็กเดินหน้าทำความสำเร็จต่อเนื่องให้กับประเทศไทย แต่…ความหวังที่ต้องการนั่นคือ “เหรียญทอง”เท่านั้น

ในศึกบราซิลเกมส์ ที่ริโอ เดอ จาไนโร ทีมยกน้ำหนักได้โควต้ามาทั้งหมด 9 ที่นั่ง แบ่งเป็นหญิง 4 ที่นั่งเต็มโควตา ประกอบด้วย “แนน” โสภิตา ธนสาร รุ่น 48 กก., “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช กับ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว รุ่น 58 กก. และ “ปุ๊กลุก” ศิริภุช กุลน้อย รุ่น 63 กก.

ขณะที่ นักกีฬาชาย 5 คน คือ วิทูรย์ มิ่งมูล รุ่น 56 กก., สินธุ์เพชร์ กรวยทอง รุ่น 56 กก., ไตรรัตน์ บุญสุข รุ่น 69 กก., จตุภูมิ ชินวงค์ รุ่น 77 กก. และ ศรัท สุ่มประดิษฐ์ รุ่น 94 กก.

ตอนนี้ สมาคมยกน้ำหนักฯ ยืนยันว่า นี่คือนักกีฬาที่ถือว่าเป็นชุดที่มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งคณะทำงานมั่นใจว่า มีโอกาสลุ้นคว้าเหรียญรางวัลทุกรุ่น โดยเฉพาะโอกาสจะหยิบเหรียญนั้นมีมากถึง 7 คนเลยทีเดียว

นักกีฬาจะกดดันหรือเปล่าไม่รู้แต่ที่แน่ ๆ สมาธิ, ร่างกาย และพลังใจต้องพร้อมอย่างมาก โดยเฉพาะทีมหญิงที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษกับการได้เหรียญต่อเนื่อง 5 สมัยติดต่อกัน

ขณะที่ทีมชาย หากใครก็ตามทำเหรียญรางวัลได้ นั่นหมายถึงคำว่า “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่” จะถูกบันทึกทันที

เมื่อ 4 ปีก่อน จตุภูมิ ชินวงค์ เกือบทำได้สำเร็จ แต่สุดท้ายเข้าป้ายเป็นอันดับ 4 ของศึกลอนดอนเกมส์ ถือว่าใกล้เคียงมาก ๆ ดังนั้นอยู่ที่วันเปิดหัว วันที่ 6 สิงหาคม จะมีแข่งขัน 1 รุ่น นั่นคือ 48 กก. หญิง ซึ่งทัพไทยจะได้ลุ้นเหรียญรางวัลจาก “แนน” โสภิตา ธนสาร กำหนดแข่งขันเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาประเทศไทยวันที่ 7 สิงหาคม เวลา 05.00 น. เชียร์เสร็จสบายใจไปตักบาตร และไปทำงานต่อได้ทันที

ทั้งนี้และทั้งนั้น ทุกอย่างไม่ใช่แค่เฉพาะฝีมือ, การเตรียมตัว แต่ยังมีเรื่องของโชคชะตาวาสนาฟ้าลิขิต ทุกอย่างบนโลกนี้แข่งขันกันได้ ยกเว้นคำว่า “วาสนา” แค่คำเดียว!!!