เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา คริสเตียโน โรนัลโด ถูกประกาศให้เป็นเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 2017 ซึ่งก็เหมือนเป็นการยืนยันว่าเขาคือนักเตะผู้ที่มีฝีเท้าเจ๋งสุดของโลกตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา

โดย “บัลลงดอร์” นั้น เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สำคัญสุดของวงการลูกหนัง ซึ่งถูกจัดขึ้นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1956 หรือเมื่อ 61 ปีก่อนโน้น เพื่อเป็นการให้กำลังใจเหล่านักเตะที่ทำผลงานกันอย่างสุดความสามารถตลอดปีนั้น ๆ

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันผู้ที่ครอบครองฟุตบอลทองคำนั้นมีอยู่แค่ 2 คนสลับกันไปมาคือ คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี ซึ่งก็ทำได้เท่ากันคือคนละ 5 ครั้ง

ส่วนชายคนสุดท้ายที่ไม่ใช่ โรนัลโด้ กับ เมสซี ได้รับบัลลงดอร์ตอนปี 2007 ก็คือ กาก้า ซูเปอร์สตาร์ชาวบราซิลนั่นแอง และเมื่อเห็นว่า บัลลงดอร์ มีความยิ่งใหญ่ขนาดนี้เราจึงนำเกร็ดประเด็นน่าสนใจทั้ง 7 เรื่องนี้มาฝากให้ผู้อ่านได้เพลินไปด้วยกัน

1. นักเตะอังกฤษ กับ บัลลงดอร์

ถึงแม้ว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ฟุตบอลอังกฤษ, นักเตะอังกฤษ และทีมชาติอังกฤษ จะได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเรา แต่สำหรับเวทีระดับโลกนั้น พวกเขามักจะถูกมองข้ามอยู่เป็นประจำไม่เว้นแม้แต่ บัลลงดอร์ เองก็ด้วย

ทั้งนี้เป็นเพราะคนที่จะเจ้าของบัลลงดอร์นั้นต้องได้รับการโหวตจากบรรดานักเตะด้วยกัน โค้ช,ผู้จัดการทีม รวมถึงสื่อหลัก ๆ ที่ถูกรับเชิญ โดยนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา มีเพียง แฮร์รี เคน และ เจมี วาร์ดี 2 คนเท่านั้นที่ได้เข้าเป็น 1 ใน 30 ผู้ท้าชิง

ส่วนในอดีต พอล สโคลส์ เคยติด 1 ใน 30 มากถึง 5 ครั้ง แต่ในรอบหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้รับโหวตจากใครเลยเช่นกัน

2. ความเซอร์ไพร์สใน บัลลงดอร์

ขณะที่ทีมชั้นนำอย่าง อาร์เซนอล หรือ เชลซี นั้นไม่เคยมีนักเตะของตัวเองที่เคยได้รับรางวัลบัลลงดอร์มาก่อน แต่ทีมในลีกวันอย่าง แบล็คพูล (เพิ่งขึ้นชั้นมาจากลีกทูด้วย) นั้นเคยมีแข้งระดับ บัลลงดอร์ มาแล้วนะเอ้อ

และชายคนนั้นก็คือท่าน เซอร์ สแตนลีย์ แมทธิวส์ ชายผู้เป็นเจ้าของ บัลลงดอร์ ครั้งแรกเมื่อปี 1956 นั่นเอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจหลักของสโมสรนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ในปี 2005 เจมี คาร์ราเกอร์ กับ คริสเตียโน โรนัลโด้ เองก็ยังเคยถูกเลือกให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันมาก่อนด้วย จากการจัดอันดับความเก่งของ บัลลงดอร์ แต่นั่นก็เป็นเรื่องในสมัยที่ CR7 ยังอายุน้อย ๆ อยู่ล่ะนะ

3. แข้งนอกยุโรปคนแรกที่คว้า บัลลงดอร์

นับตั้งแต่อดีตปี 1956 มาจนถึงปี 1994 หรือนานถึง 38 ปี เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ นั้นจะเป็นผู้เล่นที่มีชาติกำเนิดอยู่บนผืนแผ่นดินยุโรปเท่านั้น เพราะมีกฏเอาไว้แบบนั้นนั่นเอง

แต่ในปี 1995 จอร์จ เวอาห์  สุดยอดกองหน้าชาวไลบีเรีย ที่สร้างผลงานโดดเด่นให้กับทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เอซี มิลาน ก็ทะยานขึ้นเป็นเจ้าของ บัลลงดอร์ คนแรกที่ไม่ใช่แข้งยุโรป ก่อนจะกลายเป็นตำนานของปีศาจแดง-ดำภายหลัง

4. สโมสรที่มีนักเตะคว้าบัลลงดอร์ได้เยอะสุด

จนถึงตอนนี้นอกจากลูกบอลทองคำของ ลีโอเนล เมสซี ที่ประดับอยู่บนตู้โชว์ 5 อันแล้ว พวกเขายังมีอีก 6 ใบจากผู้เล่นอื่น ๆ อีก รวมแล้วทำให้ บาร์เซโลนา เป็นสโมสรที่มีนักเตะคว้าบัลลงดอร์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์

โดยครั้งแรกมาจาก หลุยส์ ซัวเรซ เมื่อปี 1960 จากนั้น โยฮัน ครัฟฟ์ อีก 2 สมัย แล้วก็เป็น ฮริสโต สตอยช์คอฟ, ริวัลโด, โรนัลดินโญ อีกคนละสมัย ส่วน เรอัล มาดริด นั้นตามหลังอยู่นิดหน่อยคือทั้งหมด 9 ครั้ง และ ยูเวนตุส, เอซี มิลาน เป็นที่ 3 ร่วมกันคือทีมละ 8 สมัย

5. กองหลังและผู้รักษาประตู

ตลอดระยะเวลา 61 ปีที่ประกาศรางวัลบัลลงดอร์กันมา มีผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครองลูกบอลทองคำนี้ คือ เลฟ ยาซิน จากประเทศรัสเซีย ชายผู้มีฉายาว่า “ไอ้ปลาหมึกยักษ์ดำ” นั่นเอง

ส่วนผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังนั้นก็มีแค่ 4 คนที่เคยได้บัลลงดอร์คือ ฟาบิโอ คันนาวาโร (อิตาลี), ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ (เยอรมัน), โลธาร์ มัทเธอุส (เยอรมัน), และ มัตเทียส ซามเมอร์ (เยอรมัน)

6. ผู้เข้าชิง 3 คนสุดท้ายมาจากสโมสรเดียวกัน

ในทุก ๆ ปีก่อนที่จะประกาศว่าใครเป็นผู้ได้รับบัลลงดอร์ ไปครอบครองนั้น จะมีการคัดจาก 30 คนที่เข้ารอบมาให้เหลือเพียงแค่ 3 คนสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าโดยปกติแล้วก็จะเป็นคนที่มาจากทีมแตกต่างกันไป

แต่ เอซี มิลาน นั้นคือสโมรเดียวบนโลกที่มีผู้ท้าชิง 3 คนนักเตะของพวกเขา แถมยังทำได้ 2 ปีติดอีกต่างหากคือ 1988 นั้นเป็น แวน บาสเทน, กุลลิท และ ไรจ์การ์ด ส่วนปี 1989 เป็น แวน บาสเทน, ไรจ์การ์ด และ บาเรซี

นอกจากนี้ในปี 2010 บาร์เซโลนา ก็เคยทำได้เช่นกันโดยมี 3 คนสุดท้ายเป็น เมสซี, ซาบี และ อิเนียสตา

7. บัลลงดอร์ ขลังกว่า FIFA

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บัลลงดอร์ นั้นถูกก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มของ นิตสาร ฟรองซ์ ฟุตบอล ซึ่งถือเป็นการมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่นี้ติดต่อกันนานจนกลายเป็นธรรมเนียมสำคัญของโลก ก่อนจะถูกควบรวมเข้ากับมหาอำนาจแห่งโลกฟุตบอลอย่าง FIFA ตอนปี 2010

แต่ 5 ปีที่ บัลลงดอร์ ถูกควบคุมภายใต้อำนาจของ FIFA นั้นดูเหมือนว่าเสน่ห์มนต์ขลังต่าง ๆ นั้นถูกลดทอนลงไปจากเดิมเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเลือก 3 ผู้ท้าชิง 30 ผู้ท้าชิง หรือแม้กระทั่งการจัดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีก็ตาม

ฉะนั้นแล้วในปี 2016 ทีมงาน ฟรองซ์ ฟุตบอลผู้เป็นเจ้าของบัลลงดอร์ที่แท้จริงจึงขอประกาศแยกทางกับ FIFA เพื่อความเป็นเอกเทศอีกครั้ง และนั่นก็แสดงให้เห็นว่า ลูกบอลทองคำ นั้นยังคงมีเสน่ห์มนต์ขลังเหนือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ FIFA อยู่แบบไม่เห็นฝุ่น