กีฬาฟุตบอลฟุตบอลโลก 2022

5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022

WP COVER WC22 CONTENTS 03 - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022

มหกรรมฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่วันแล้ว เรากำลังจะได้เห็นนักฟุตบอล 736 คนและทีมฟุตบอลประจำชาติที่ดีที่สุด 32 ทีมจาก 5 สมาพันธ์ฟุตบอลทั่วโลกมารวมตัวกันในประเทศอาหรับเพื่อชิงชัยในรายการแข่งขันกีฬาที่ทรงเกียรติที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก

ฟุตบอลโลกหนนี้มีทั้งทีมแชมป์เก่าอย่างทีมชาติฝรั่งเศส ทีมตัวเต็งอย่างทีมชาติบราซิล ทีมชาติอังกฤษ หรือทีมชาติสเปน แต่สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์และสีสันประจำฟุตบอลโลกทุกครั้ง ก็คือ ทีมม้ามืด อย่างเช่นทีมชาติโครเอเชียในปี 2018 และทีมชาติคอสตาริกาในปี 2014 สำหรับปี 2022 นี้ก็มีทีมม้ามืดที่น่าจับตามองทั้งหมด 5 ทีมด้วยกัน เรามาทำความรู้จักกับทีมชาติเหล่านี้กันเลย

1. ทีมชาติเดนมาร์ก

denmark - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022


เดนมาร์ก ผ่านฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาแล้ว 5 ครั้ง ในปี 1986, 1998, 2002, 2010 และ 2018 โดยผลงานดีที่สุดของพวกเขาคือ การเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ ทีมชาติเดนมาร์ก ผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์ของกลุ่ม เอฟ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กวาดไป 27 แต้มจากการแข่งขัน 10 นัด เป็นการชนะคู่แข่งไปถึง 9 เกมและแพ้ไปเพียงแต่เกมเดียวเท่านั้น

กุนซือของทีมชาติเดนมาร์กในครั้งนี้ยังคงอยู่ภายใต้การคุมทัพของ เคสเปอร์ ฮูลมันด์ ชายผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการฟุตบอลแดนโคนมมาอย่างยาวนาน เคยคุมทีม นอร์ดเจลแลนด์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองในปี 2012 ก่อนจะเริ่มหันไปรับงานฝ่ายบริหารเบื้องหลัง กระทั่งปี 2020 ก็ได้รับโอกาสคุมทีมชาติอย่างเป็นทางการในที่สุด

และแน่นอนว่าผู้เล่นแกนหลักจากศึกยูโร จะยังคงเป็นคีย์แมนของทีมต่อเนื่องในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิล (นีซ) อันเดรียส คริสเตนเซ่น (บาร์เซโลน่า) ซิมง เคียร์ (เอซี มิลาน)  ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก (สเปอร์ส) โธมัส เดลานีย์ (เซบีย่า) ยูสซูฟ โพลเซ่น (แอร์เบ ไลป์ซิก) และที่ขาดไม่ได้คือ คริสเตียน
อีริคเซ่น
 มิดฟิลด์จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ซึ่งในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนี้ เดนมาร์ก ถูกจับมาอยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า, ออสเตรเลีย ตัวแทนจากเอเชีย และ ตูนีเซีย ตัวแทนจากแอฟริกาใต้

สถานการณ์การเข้ารอบของทัพโคนมนั้น คาดว่าพวกเขาน่าจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ แต่อาจจะต้องแย่งแชมป์กลุ่มกับอีกหนึ่งทีมแกร่งอย่าง ฝรั่งเศส มีดีกรีเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ และถ้าหากพวกเขาสามารถคว้าแชมป์กลุ่มได้ ก็จะทำให้เดนมาร์กเจอกับทีมอันดับที่ 2 จากกลุ่ม ซี นั่นคือคู่แข่งที่สูสีอย่าง โปแลนด์ หรือ เม็กซิโก นั่นจะทำให้โอกาสเข้ารอบต่อไปนั้นเปิดกว้างกว่าการที่จะต้องเจอกับ อาร์เจนติน่า ที่น่าจะซิวแชมป์กลุ่ม ซี ไปได้

2. ทีมชาติเม็กซิโก

เม็ก 1024x682 - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022

เม็กซิโก จัดว่าเป็นขาประจำสำหรับศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ผ่านเข้ามาได้ถึง 17 จาก 22 ครั้ง ถ้าหากไม่นับปี 1990 ที่โดนแบนไป เรียกว่าเข้ารอบต่อเนื่องถึง 9 ครั้งติดต่อกันเข้าไปแล้ว นอกจากนี้ผลงานเด่นก็คือการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายติดต่อกันมา 7 ครั้ง

ทีมชาติเม็กซิโกจบรอบคัดเลือกด้วยการผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์ของรอบคัดเลือก รอบสาม โซนคอนคาเคฟ โดยมี 28 แต้มจาก 14 นัด เท่ากับแชมป์คือ แคนาดา แต่ผลต่างประตูได้-เสียของเม็กซิโกเป็นรอง

ดาวเด่นของทีมจังโก้ ต้องยกให้กับเออร์วิ่ง โลซาโน่ ปีกวัย 27 ปี ที่สร้างชื่อตั้งแต่ฟุตบอลโลกคราวก่อนด้วยการยิงประตูชัยล้มแชมป์เก่าอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ในรอบแรกมาได้ ซึ่งมาครั้งนี้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเล่นในลีกยุโรปที่มากขึ้น และกำลังเป็นตัวหลักของ นาโปลี ที่นำเป็นจ่าฝูงของกัลโช่ เซเรียอา ในตอนนี้

นอกจากนี้ยังมีแข้งสำคัญอย่าง อันเดรียส กวาร์ดาโด้ กองกลางจอมเก๋าวัย 36 ปี และเอ็ดสัน อัลวาเรซ กองกลางเชิงรับที่กำลังเป็นที่สนใจของหลายทีมในยุโรป และกองหน้าอย่างราอูล ฆิมิเนซ ที่พร้อมจะพาทีมประสบความสำเร็จให้ได้ ในการจับสลากแบ่งกลุ่มในศึกเวิลด์ คัพ 2022 ทีมชาติเม็กซิโก ถูกจับมาอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ อาร์เจนตินา, โปแลนด์ และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทัพ “ฟ้าขาว” น่าจะเป็นทีมแรกที่จองตั๋วเข้ารอบ ส่วนตั๋วอีกใบคงเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง เม็กซิโก กับ โปแลนด์ ซึ่งเกรดบอลไม่ต่างกันมากนัก

หาก เม็กซิโก ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาจะไขว้ไปเจอกับคู่แข่งจากกลุ่มดี ได้แก่ ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก หรือ ตูนีเซีย ซึ่งถ้าขุนพล “จังโก้” เข้ารอบเป็นอันดับสองของกลุ่ม ก็มีโอกาสเจอของแข็งอย่างแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่น่าจะผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มดี แต่เมื่อถึงเกมแข่งขันจริง สถานการณ์ต่าง ๆ อาจไม่เป็นอย่างที่เราคาดการณ์ แต่สิ่งที่แน่นอนที่เราต่างทราบกันดี นั่นคือ เม็กซิโก ทีมนี้ มักสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนบอลได้เห็นกันอยู่เสมอ

3. ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

สวิต - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022


อาจจะไม่ใช่ทีมชั้นนำที่มีโอกาสถึงการลุ้นแชมป์ แต่ช่วงหลังพวกเขามักจะได้มาวาดลวดลายในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอยู่เสมอ โดยเวิลด์คัพครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 12 และทำสถิติเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกันที่พวกเขาได้มาโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ทัพนักเตะจากแดนนาฬิกาผ่านเข้ารอบสุดท้ายด้วยฟอร์มสุดเซอร์ไพรส์ โดยพวกเขาลงสนาม 8 นัดในรอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี ทำผลงานชนะ 5 เสมอ 3 และไม่แพ้ใครเลย ทำให้คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง คว้าตั๋วไปกาตาร์โดยอัตโนมัติ ปล่อยให้ทีมเต็งอย่าง อิตาลี จบอันดับ 2 ของกลุ่ม ก่อนที่ทัพอัซซูรี่จะไปพลาดท่าพ่าย นอร์ธ มาเซโดเนีย ในรอบเพลย์ออฟ กระเด็นตกรอบคัดเลือก ชวดตั๋วเข้ารอบสุดท้ายไปแบบพลิกล็อกช็อคโลก

ส่วนขุมกำลังของสวิสนำมาโดยกลุ่มนักเตะประสบการณ์สูงที่เล่นร่วมกันมานาน ไม่ว่าจะเป็น ริคาร์โด โรดริเกซ (โตริโน่) ฟาเบียน แชร์ (นิวคาสเซิ่ล) ฟาเบียน ฟราย (บาเซิ่ล) มาริโอ กาฟราโนวิช (เคย์เซริสปอร์) ฮาริส เซเฟโรวิช (กลาตาซาราย) เซอร์ดาน ชาคิรี่ (ชิคาโก้ ไฟร์) และที่ขาดไม่ได้คือ กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์จอมบู๊วัย 29 ปีจากอาร์เซน่อล

จุดเด่นที่สำคัญเลยของสวิตเซอร์แลนด์คือการเล่นร่วมกันเป็นทีม เพราะพวกเขาอาจจะไม่ได้มีสตาร์เด่นชัด แต่ทุกคนต่างพร้อมจะวิ่งช่วยกันเพื่อทำให้ทีมได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อีกทั้งชุดนี้ยังเล่นด้วยกันมาเป็นเวลานาน มีความเข้าใจกันเป็นอย่างดี

สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับ บราซิล, เซอร์เบีย และ แคเมอรูน ซึ่งทีมเต็ง 1 ที่มีโอกาสเข้ารอบทีมแรกคงต้องยกให้กับ บราซิล ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ หากเทียบศักยภาพโดยรวมแล้ว ขุมกำลังของ สวิส ไม่ได้เป็นรองเซอร์เบีย หรือ แคเมอรูน แต่อย่างใด

4. ทีมชาติเซเนกัล

เซเนกัล - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022

เซเนกัล ผ่านเข้าฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหนแรกในปี 2002 ก่อนสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะแชมป์เก่าอย่าง ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทว่าหลังจากนั้น พวกเขาไม่เคยได้ไปเล่นฟุตบอลโลกอีกเลย จนกระทั่งปี 2018 และในปีนี้ พวกเขาจะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งที่สาม หลังจากเอาชนะทีมชาติ อิยิปต์ ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในรอบคัดเลือกขุมกำลังของเซเนกัลชุดปัจจุบัน อาจเรียกว่าเป็น “ยุคทอง” ของพวกเขาเลยก็ว่าได้ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรดังของยุโรป นำทัพมาโดย เอดูอาร์ เมนดี้, คาลิดู คูลิบาลี่ สองสตาร์จากเชลซี รวมทั้ง นัมปาลิส เมนดี้ (เลสเตอร์) อิดริสซา เกย์ (เอฟเวอร์ตัน) ชีกู คูยาเต้ (ฟอเรสต์) อิสไมลา ซาร์ (วัตฟอร์ด) โฟเด้ บัลโล ตูเร่ (เอซี มิลาน) อับดู ดิยาลโล (แอร์เบ ไลป์ซิก) และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ซาดิโอ มาเน่ หัวหอกวัย 30 ปีจากบาเยิร์น มิวนิค ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดาวยิงหมายเลขหนึ่งของประเทศคือ ซาดิโอ มาเน ในวัย 30 ปี ผู้เป็นความหวังสูงสุด
เซเนกัล ถูกจับอยู่ในกลุ่มเดียวกับเจ้าภาพ กาตาร์, เอกวาดอร์ และ เนเธอร์แลนด์สซึ่งไม่มีทีมไหนการันตีเข้ารอบแบ่งกลุ่มไปได้ง่าย ๆ

ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศมองว่า หากจะมีสักทีมที่เป็น “ม้ามืด” ในฟุตบอลโลก 2022 “เซเนกัล” คือทีมที่เหล่าผู้สันทัดกรณีมองว่ามีสิทธิสร้างเซอร์ไพรส์ได้ เพราะกราฟของพวกเขากำลังอยู่ช่วงขาขึ้น หลังจากผงาดคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และนักเตะชุดนี้เล่นร่วมกันมานาน หรือแม้กระทั่งโค้ชอย่าง อลิยู ซิสเซ่ ก็อยู่กับทีมมานานกว่า 7 ปีแล้ว

หากผ่านรอบแรกไปได้เส้นทางของ เซเนกัล จะไม่หนักมากนัก พวกเขาจะไขว้ไปเจอกับทีมจากกลุ่มบี ได้แก่ อังกฤษ อิหร่าน เวลส์ และสหรัฐ ซึ่งดูแล้ว เซเนกัล สู้ได้ทุกทีม ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่พวกเขาจะทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เหมือนที่นักเตะรุ่นพี่ของพวกเขาเคยทำได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว

5. ทีมชาติเบลเยี่ยม

เบล - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติเบลเยี่ยมจบรอบคัดเลือกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มบี โซนยุโรป ด้วยผลงานลงสนาม 8 นัด ชนะ 6 เสมอ 2 และไม่แพ้ใครเลย

กุนซือของทีมชาติเบลเยี่ยมในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังคงเป็น โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่ได้คุมทีมชาติเบลเยี่ยมมาตั้งแต่ปี 2016 พร้อมพาทีมคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 และรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2020

ส่วนขุมกำลังของเบลเยียมชุดนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้เล่นจากชุดอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ไม่ว่าจะเป็น ธิโบต์ กูร์กตัวส์, แยน แฟร์ตองเก้น, โทบี้ อัลเดอไวเรลด์, อักเซล วิตเซล, โตมาร์ มูนิเยร์, ยูริ ตีเลอมองส์, ยานนิค คาร์ราสโก้, พี่น้อง เอเดน-ธอร์ก็อง อาซาร์, มิชี่ บัตชัวยี่, โรเมลู ลูกากู และสุดยอดเพลย์เมกเกอร์ตัวท็อปของวงการ เควิน เดอ บรอยน์

ขณะเดียวกัน เบลเยี่ยม มีสายเลือดใหม่ที่เข้ามาผนึกกำลังกับรุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็น อมาดู โอนาน่า (เอฟเวอร์ตัน) ทิโมธี คาสตานเย (เลสเตอร์) เลอันโดร ทรอสซาร์ (ไบรท์ตัน) และสองดาวรุ่งจากเอซี มิลาน อเล็กซิส แซเลแมเคอร์ส กับ ชาร์ลส์ เด เคเตแลเร่

ผู้เล่นกลุ่มนี้รับใช้ชาติด้วยกันมานาน และสามารถพา เบลเยี่ยม พุ่งทะยานไปได้ไกลถึงอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 แถมยังครองทีมลูกหนังเบอร์ 1 ของโลกในฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง มานานนับปี จนกระทั่งมาถึงฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งอาจจะเป็น “เวิลด์คัพครั้งสุดท้าย” ของแข้งเจเนอเรชั่นนี้หลายๆ คน เพราะส่วนใหญ่อายุเลข 3 นำหน้าแล้วทั้งนั้น 

ในรอบแรกเองเบลเยียมถือว่าอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับพวกเขา อาจจะต้องไปลุ้นชิงแชมป์กลุ่มกับ “ตาหมากรุก”โครเอเชีย แต่กับแคนาดา หรือโมร็อกโก เอง ถ้าหากไม่ประมาทก็น่าจะสามารถเอาชนะได้ไม่ยากนัก แต่ในรอบลึกๆ แน่นอนว่าเบลเยียมจะต้องเจอกับ เสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่รอคอยอยู่อีกเยอะ และนี่คือบททดสอบสำคัญสำหรับพวกเขา ว่าจะปิดฉากยุคทองไปพร้อมความสำเร็จได้หรือไม่


[มุมนักลงทุน 18+]

WC22 PROMO500 - 5 ทีมม้ามืด ศึกฟุตบอลโลก 2022

188BET ทางเข้า (ล่าสุด 2022)

Share: